เยนญี่ปุ่นทะลุระดับ 150 จับตาการแทรกแซง

© Reuters.

Investing.com-- ค่าเงิน เยนญี่ปุ่น อ่อนค่าลงผ่านระดับสำคัญ 150 ต่อดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี เพิ่มโอกาสที่รัฐบาลจะเข้ามาแทรกแซงตลาดสกุลเงิน และยังสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นพิจารณาการกระชับนโยบายการเงิน

เงินเยนร่วงลง 0.1% สู่ระดับต่ำสุดในรอบปีที่ 150.25 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงาน GDP ของสหรัฐฯ และ การประชุมของเฟด ที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ผลักดันให้เกิดแรงซื้อให้เข้าสู่เงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเพิ่มโอกาสที่รัฐบาลจะเข้าแทรกแซงเพื่อสนับสนุนค่าเงินเยนหลังจากที่ทะลุระดับ 150 เมื่อปีที่แล้วได้กระตุ้นให้รัฐบาลทุ่มเงินมากถึง 60,000 ล้านดอลลาร์เพื่อควบคุมค่าเงินจากระดับต่ำสุดในรอบ 32 ปี

เงินเยนอ่อนค่าลงเหลือต่ำสุดที่ 150.16 เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว การฟื้นตัวได้กระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไรว่ารัฐบาลอาจเข้าแทรกแซงในตลาดสกุลเงิน

ก่อนเหตุการณ์เดือนตุลาคม 2022 นั้น ครั้งสุดท้ายที่เงินเยนทะลุ 150 คือในเดือนสิงหาคมปี 1990 ในช่วงเริ่มต้นของ "ทศวรรษที่หายไป" ของญี่ปุ่น

แต่สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป โดยแรงกดดันส่วนใหญ่ต่อเงินเยนมาจากความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นระหว่างอัตราดอกเบี้ยในประเทศและสหรัฐฯ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เป็นธนาคารกลางรายใหญ่เพียงแห่งเดียวที่มีอัตราดอกเบี้ยติดลบ ต่างจากธนาคารอื่น ๆ ทั่วโลกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐที่ได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมาเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น

แนวโน้มนี้ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยสกุลเงินอยู่ในอันดับหนึ่งในสกุลเงินเอเชียที่มีประสิทธิภาพแย่ที่สุดในปีนี้ เงินเยนร่วงลงมากกว่า 12% จนถึงปี 2023

BOJ ยังคงรักษาจุดยืนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในปีที่ผ่านมา โดยอ้างถึงความจำเป็นในการสนับสนุนทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมภายหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และได้เข้ามาแทรกแซงตลาดตราสารหนี้เมื่อต้นเดือนนี้ เพื่อลดอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นใน พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น

แต่รายงานของสื่อกล่าวว่า BOJ กำลังพิจารณาการเปลี่ยนแปลงกลไกการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนเพื่อให้ตรงกับอัตราของสหรัฐฯ มากขึ้น การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจช่วยสนับสนุนค่าเงินเยนได้เช่นกัน

ธนาคารกลาง จะประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใด ๆ ที่เกี่ยวกับนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายดูไม่น่าเกิดขึ้นก็ตาม โดยการประชุม BOJ จะมีขึ้นหนึ่งวันก่อนสรุปการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ