ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.88 อ่อนค่าสุดในภูมิภาค กังวลกู้เงินดิจิทัลวอลเล็ต

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.88 อ่อนค่าสุดในภูมิภาค กังวลกู้เงินดิจิทัลวอลเล็ต

InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 35.88 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเมื่อ เช้าอยู่ที่ระดับ 35.89 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.74 - 35.94 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทเริ่มปรับตัว ในทิศทางอ่อนค่าหลังนายกรัฐมนตรีออกมาแถลงรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับวินัยการเงินการคลัง จากกรณีที่จะมีการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรราว 3.7 พันล้านบาท "ตลาดตอบรับในทิศทางที่ไม่ค่อยดี เพราะกังวลเรื่องการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท โดยวันนี้บาทอ่อนค่าสุดใน ภูมิภาค" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 35.75 - 36.00 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 151.39 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 151.33 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0679 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0664 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,389.57 จุด ลดลง 15.40 จุด, -1.10% มูลค่าการซื้อขาย 50,967.94 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,406.80 ล้านบาท - นายกรัฐมนตรี ประกาศเงื่อนไขแจกดิจิทัลวอลเล็ต โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ราวเดือน พ.ค.67 สำหรับ แหล่งเงินทุนในโครงการ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ได้มองแค่ตัวเลือกใดตัวเลือกนึง แต่ดูถึง Hybrid option ผสมผสานหลายๆแนวทาง ด้วย ความเป็นไปได้มากที่สุด คือ การออก พ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท - คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เปิดตัวคิกออฟ เฟสติวัลใหญ่ประจำปี Thailand Winter Festival และ Colorful Bangkok Winter Festival 2023 รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงพักผ่อนปลายปี จัดงานกว่า 3,000 งาน ทั้งงาน ประเพณีไทยดั้งเดิม เทศกาลสากล ตลอดจนงานต่างๆ ที่แสดงออกลักษณะทางศิลปะ หวังผลักดันไทยเป็น Hub ของเฟสติวัลโลก - ผู้บริหารมูดี้ส์ เผยภาคธนาคารของสหรัฐฯ ยังไม่พ้นภาวะวิกฤต เนื่องจากมีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง (Reinflation) หากธนาคารต่างๆ ประสบความล้มเหลวในการคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยอย่างมีประสิทธิภาพ - รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ดีกับจีน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทั้ง สองประเทศในระยะยาว แต่จะหยิบยกความกังวลเกี่ยวกับนโยบายต่าง ๆ ของจีนที่ห้ามการแข่งขันที่เป็นธรรมขึ้นมาหารือกัน ด้วย - สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ระบุในวันนี้ (10 พ.ย.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของ อังกฤษ เติบโตที่ 0% ในไตรมาส 3/2566 (ก.ค.-ก.ย.) ขณะที่ นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอย เตอร์คาดการณ์ว่า GDP จะลดลง 0.1% ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะเศรษฐกิจถดถอย

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest