ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า หลังจนท.เฟดส่งสัญญาณยุติขึ้นดอกเบี้ย

© Reuters. ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า หลังจนท.เฟดส่งสัญญาณยุติขึ้นดอกเบี้ย

InfoQuest - ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (28 พ.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.45% แตะที่ระดับ 102.7465

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0990 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0956 ดอลลาร์ในวันจันทร์ (27 พ.ย.) ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2698 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2631 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 147.4240 เยน จากระดับ 148.6250 เยนในวันจันทร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8777 ฟรังก์ จากระดับ 0.8802 ฟรังก์, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3568 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3623 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.3320 โครนา จากระดับ 10.4226 โครนา

ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในขณะนี้อยู่ในระดับที่เข้มงวดมากเพียงพอแล้ว พร้อมกับส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่ว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หากเงินเฟ้อยังคงปรับตัวลงเข้าใกล้เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%

ขณะที่นายออสแทน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังปรับตัวลงในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 พร้อมกับกล่าวว่าเขารู้สึกกังวลหากเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเกินไป

ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้น หลังจากนายโยอาคิม เนเกิล ประธานธนาคารบุนเดสแบงก์เปิดเผยว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหากแนวโน้มเงินเฟ้อแย่ลง และ ECB ไม่ควรรีบผ่อนคลายนโยบายเร็วเกินไป หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB กล่าวว่าการต่อสู้ของ ECB เพื่อควบคุมการขยายตัวของเงินเฟ้อนั้นยังไม่สิ้นสุด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 102.0 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 99.1 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 101.0

เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนก.ย. จากระดับ 2.5% ในเดือนส.ค. โดยราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองดีทรอยท์ ซานดิอาโก และนิวยอร์ก

นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 (ประมาณการครั้งที่ 2) และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้

ส่วนในวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนต.ค. สำหรับในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest