ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้ 35.18 อ่อนค่าสุดในภูมิภาค คาดกรอบพรุ่งนี้ 35.00-35.25

© Reuters. ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้ 35.18 อ่อนค่าสุดในภูมิภาค คาดกรอบพรุ่งนี้ 35.00-35.25

InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 35.18 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 34.82 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างกว้างที่ 34.78 - 35.18 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทอ่อนค่าตามทิศทางของ สกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค และเป็นการอ่อนค่าสุดในภูมิภาค เป็นผลจากดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่าขึ้น หลังจากสหรัฐฯ ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ไตรมาส 3/66 ขึ้นมาอยู่ที่ 5.2% นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00 -35.25 บาท/ดอลลาร์ คืนนี้ ต้องติดตามการรายงาน ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้ เป็นตัววัดเงินเฟ้อ เพื่อประกอบการตัดสินใจทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย THAI BATH SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 35.0408 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 147.06 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 147.09 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0923 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0970 ดอลลาร์/ยูโร - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยเศรษฐกิจไทยในเดือนต.ค.66 อยู่ในทิศทางฟื้นตัวตามอุปสงค์ในประเทศทั้งการบริ โภค และการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่การส่งออกสินค้าและภาคบริการชะลอลงจากเดือนก่อน ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากมาตรการลด ราคาพลังงานของภาครัฐ ตลาดแรงงานปรับดีขึ้นต่อเนื่อง - ธปท. คาดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.ยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยมีแรงส่งสำคัญจากการบริโภคภาคเอกชน และ ภาคการท่องเที่ยว พร้อมประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/66 จะขยายตัวได้ 3.7% ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี 66 ขยายตัวได้ 2.4% ตามประมาณการของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) - ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ต.ค.66 อยู่ที่ระดับ 89.38 ลดลง 4.29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ต้นทุน ทางการเงินและภาระหนี้ของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น - องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2567 จะขยายตัวได้ 2.7% ชะลอตัวลงเล็กน้อยจากปีนี้ ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.9% โดยเป็นผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกใช้นโยบายคุมเข้มด้าน การเงิน รวมทั้งการค้าที่อ่อนแอลง และความเชื่อมั่นที่ปรับตัวลง ทั้งในภาคธุรกิจและผู้บริโภค - China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้ (30 พ. ย.) แข็งค่าขึ้น 0.0013 หยวน แตะที่ 7.1018 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีน นั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน - นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดย ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุม ราคาสินค้าและบริการในวงกว้าง มากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest