ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.42 แข็งค่าต่อเนื่อง ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้

© Reuters. ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.42 แข็งค่าต่อเนื่อง ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้

InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 35.42 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 35.50 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคและตลาดโลก หลังดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเนื่องจาก ตลาดมั่นใจเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ยังรอดูความชัดเจนจากตัวเลขการจ้างงานอกภาค เกษตรกรรมของสหรัฐฯ คืนนี้ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.38 - 35.58 บาท/ดอลลาร์ "บาทปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค หลังตลาดมีความมั่นใจเรื่องที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 35.25 - 35.55 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.05 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 147.57 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0929 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0955 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,386.42 จุด เพิ่มขึ้น 14.26 จุด, +1.04% มูลค่าซื้อขาย 40,077.08 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,677.81 ล้านบาท - การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรม The Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ตั้งเป้านักท่องเที่ยว9ลาดยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง จำนวน 8.5 ล้านคน สร้างรายได้ กว่า 664,000 ล้านบาท - ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยปี 2567 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 36 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการ ที่ 30.6 ล้านคน เมื่อเดือน ธ.ค.66 จากมาตรการวีซ่าฟรี การจัดงานสัมมนาและประชุมระดับโลก และปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น - เอสแอนด์พี โกลบอล ออกคำเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี (7 มี.ค.) ว่าแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีนอาจถูกปรับ ลดลง หากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ หรือยังต้องอาศัยการแทรกแซงของรัฐบาลเข้ามาด้วยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งใหญ่ - ราคาทองคำสปอตแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2,164.09 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ในวันพฤหัสบดี (7 มี.ค.) โดยได้แรง หนุนส่วนใหญ่จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งหนุนให้นักลงทุนสนใจเข้าซื้อทองคำมากขึ้น โดยทองคำไม่มีผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย เมื่อเทียบกับสินทรัพย์คู่แข่งอื่น ๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ - กลุ่มนักวิเคราะห์และเทรดเดอร์ระบุว่า ราคาทองคำโลกที่พุ่งสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์อาจทำให้ความต้องการทองคำลด ลงสำหรับฤดูกาลแต่งงานในอินเดีย แต่อุปสงค์ทองคำในจีนจะแข็งแกร่งขึ้นในปีนี้ ซึ่งจีนเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลกและซื้อ ทองคำในฐานะที่เป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย - จีนตั้งเป้าทุ่มงบประมาณกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อส่งเสริมภาคการผลิตและเทคโนโลยีในประเทศให้สามารถแข่งขันใน ระดับโลกต่อไปได้ แต่ให้การสนับสนุนใหม่แก่ภาคอสังหาริมทรัพย์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยปัจจุบันภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนกำลังประสบ ปัญหาจากหนี้สินก้อนโต

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest