ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.51 ตลาดจับตาแถลงนโยบายรัฐบาล-เงินเฟ้อสหรัฐ-ประชุม ECB สัปดาห์หน้า

© Reuters. ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.51 ตลาดจับตาแถลงนโยบายรัฐบาล-เงินเฟ้อสหรัฐ-ประชุม ECB สัปดาห์หน้า

InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.51 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.58 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.45 - 35.64 บาท/ดอลลาร์ โดยหลังจากที่เงินบาทอ่อนค่าขึ้นไปถึงระดับสูงสุด ของวันแล้ว ก็ค่อยๆ ย่อตัวลงมาตามแรงขายดอลลาร์สหรัฐ โดยวันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่มากนัก สำหรับสัปดาห์หน้า ตลาดให้ความสำคัญกับการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ขณะที่ปัจจัยสำคัญในประเทศ นักลงทุนรอติดตาม ครม.เศรษฐา 1 แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 11-12 ก.ย.นี้ "วันนี้เงินบาทยังไม่ค่อยมีปัจจัยสำคัญมาก ต่างชาติก็ยังไม่ได้กลับมาซื้อหุ้นและพันธบัตรของไทย เพราะรอดูความชัดเจน ในการแถลงนโยบายรัฐบาลช่วงต้นสัปดาห์หน้า" นักบริหารเงิน ระบุ นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.45 - 35.70 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 147.28 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 147.13 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0703 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0715 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,547.17 จุด ลดลง 3.19 จุด, -0.21% มูลค่าการซื้อขาย 34,714.41 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,167.66 ลบ.(SET+MAI) - นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุ พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 11 พรรค อยากเห็นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยสามารถเติบโตได้มากกว่าในปัจจุบัน พร้อมตั้งเป้าหมายว่า ในช่วง 4 ปีที่เป็นรัฐบาล ต้องการเห็นค่าเฉลี่ย GDP ของประเทศเติบ โตได้ปีละ 5% - รมช.คลัง เปิดเผยว่า มาตรการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ได้มีการหารือร่วมกันไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว โดย เฉพาะแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ราว 5.6 แสนล้านบาท โดยยืนยันว่า งบประมาณที่จะนำมาใช้ในโครง การดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีปัญหา สามารถเดินหน้าได้แน่นอน โดยจะมาจากหลายส่วน เช่น การกู้เงิน ส่วนจะเป็นการกู้ในลักษณะใดนั้นยังไม่มี ข้อสรุป แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการออก พ.ร.ก.กู้เงินมาใช้ในโครงการเหมือนช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาแน่นอน - กระทรวงการคลัง ได้พิจารณาอนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศ ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย รอบอนุญาตที่ 3/2566 (ออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้ ระหว่างวันที่ 1 ก.ย.66 - 31 พ.ค.67) จำนวน 1 ราย ได้แก่ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด - รมว.คลังสหรัฐฯ ระบุว่า จะดำเนินการร่วมกับประเทศสมาชิกในการประชุมสุดยอด G20 ที่อินเดีย โดยตั้งเป้าเพื่อ รวบรวมการสนับสนุนด้านทรัพยากรทางการเงินที่เพิ่มขึ้น ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก (World Bank) เพื่อช่วยประเทศสมาชิกในการจัดการกับปัญหาระดับโลกต่าง ๆ รวมถึงการเพิ่มเงินตามโควตาใหม่ของ IMF - สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนี ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ถูกปรับให้มี ความสอดคล้องกับประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป (EU) ชะลอตัวลงสู่ระดับ 6.4% ในเดือนส.ค. ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลเบื้องต้น - ซิตี้กรุ๊ป ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจยูโรโซนสำหรับปี 2566 เหลือขยายตัวเพียง 0.4% และคาด ว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนจะหดตัวเล็กน้อยในช่วง 3 ไตรมาสข้างหน้า และคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัว 0.1% ในปี 2567 - สัปดาห์หน้า สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือนส. ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. และดัชนีราคาผู้ ผลิต (PPI) เดือนส.ค.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest