ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.62/63 อ่อนค่าตามภูมิภาค คาดกรอบพรุ่งนี้ 35.50-35.75
InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.62/63 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 35.56 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.52 - 35.63 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับ สกุลเงินในภูมิภาค ทั้งนี้ ต้องติดตามว่าจีนจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งล่าสุด มีการยกเลิกการจัดซื้อ-ขายบ้าน ในเมืองใหญ่ เพื่อกระตุ้นตลาดในภาคอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น อย่างไรก็ดี วันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมากนัก โดยตลาดรอติดตามดัชนีราคาผู้ บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ คืนวันพรุ่งนี้ นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.50 - 35.75 บาท/ดอลลาร์ * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยนอยู่ที่ระดับ 146.79/82 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 146.68 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0723/0727 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0742 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,545.50 จุด เพิ่มขึ้น 4.56 จุด (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 40,984.43 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 729.44 ลบ.(SET+MAI) - นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกพรุ่งนี้รัฐบาล จะออกมาตรการหลายด้านในการดูแลค่าครองชีพให้ประชาชน เช่น การลดค่าไฟฟ้า ลดราคาน้ำมัน ตลอดจนเรื่องฟรีวีซ่าให้กับนัก ท่องเที่ยวจีน พร้อมชง ครม.พักหนี้เกษตรกร ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย พร้อมหนุนเพิ่มรายได้ - นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น จะมีการหารือ 3 ฝ่าย (คณะกรรมการไตรภาคี) เพื่อ พิจารณาปรับค่าแรงขั้นต่ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยรัฐบาลมีเป้าหมายที่จะให้ปรับขึ้นไปที่ 400 บาท/วัน โดยเร็วที่สุด - ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ส.ค.66 อยู่ที่ระดับ 91.3 ปรับตัวลดลงจาก 92.3 ในเดือน ก.ค.66 โดยลดลงดิดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 และต่ำสุดในรอบ 1 ปี เป็นผลจากการส่งออกที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก และกำลังซื้อของ ประเทศคู่ค้าอ่อนแอ ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวช้าจากปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ย เงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้น และผลกระทบเอลนีโญต่อผลผลิตทางการเกษตร และความกังวลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใตัรัฐบาลผสม - ส.อ.ท. เตรียมจัดทำข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล เพื่อเสริมแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศให้ตรงจุด ซึ่ง คาดว่าจะนำเสนอให้รัฐบาลได้ภายในต้นเดือน ต.ค. 66 โดยจะเสนอแนะวิธีการ และจัดลำดับความสำคัญของปัญหาที่ต้องดำเนิน การแก้ไขเร่งด่วนภายใน 6 เดือน-1 ปี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ฟื้นตัวโดยเร็ว - "โซเดีย คัสโตดี้" (Zodia Custody) ซึ่งเป็นบริษัทที่ช่วยสถาบันขนาดใหญ่เก็บคริปโทเคอร์เรนซีและเป็นบริษัทใน เครือของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ต) จากอังกฤษ เปิดตัวในสิงคโปร์ในวันนี้ เพื่อรุกตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่เติบโต อย่างรวดเร็วของสิงคโปร์ - สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ตลาดแรงงานอังกฤษ ส่งสัญญาณชะลอตัวลงในช่วงเวลา 3 เดือนจนถึงเดือนก.ค. แต่อัตราค่าจ้างยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน การประชุมเดือนหน้า - บรรดาเจ้าหนี้ได้อนุมัติให้ คันทรี การ์เดน (Country Garden) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุด แห่งหนึ่งของจีน ขยายระยะเวลาวันครบกำหนดชำระหนี้หุ้นกู้ในประเทศจำนวน 6 ชุด ออกไป 3 ปี หนุนให้ราคาหุ้นบริษัทดังกล่าวพุ่ง ขึ้นสูงถึง 10% - ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้กล่าวโจมตีหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐที่ เสนอให้มีการปรับเพิ่มข้อกำหนดด้านเงินทุนในภาคธนาคาร โดยกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวจะกดดันให้ธนาคารต่าง ๆ ลดการปล่อย เงินกู้ และจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมกับคาดหวังว่าทางการสหรัฐฯ จะไม่บังคับใช้มาตรการดังกล่าว
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest