ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.73 แข็งค่าเล็กน้อย หลังเงินเฟ้อสหรัฐออกมาตามตลาดคาด
InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 35.73 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.76 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลก ขณะที่ดอลลาร์ทรงตัวหลังตัวเลขเงินเฟ้อของ สหรัฐฯ ออกมาเมื่อคืนนี้เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนปัจจัยในประเทศที่มาจากมติ ครม.เมื่อวานนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทมากนัก ขณะที่มีเงินทุนต่างประเทศไหลออก ต่อเนื่อง และมีปัจจัยกดดันให้บาทอ่อนค่าจากการนำเข้าน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้น "บาทขยับแข็งค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้เล็กน้อย แต่ยังอยู่ใกล้เคียงกับระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือน" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.60 - 35.80 บาท/ดอลลาร์ SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 35.70000 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 147.11 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 147.36 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0734 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0730 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.695 บาท/ดอลลาร์ - ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปรับแผนการคลัง ระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2567-2570) ตามที่คณะ กรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เสนอเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาจัดทำกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังฯ และเพื่อให้หน่วยงานของรัฐนำไปใช้ประกอบการพิจารณาในการจัดเก็บหรือหา รายได้ การจัดทำงบประมาณ และการก่อหนี้ของหน่วยงานของรัฐ ตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังฯ ต่อไป - "ไทยบีเอ็มเอ" จับตา"หุ้นกู้ไฮยีลด์" ครบกำหนด 3 เดือนข้างหน้า เป็นพิเศษ จี้ 'แผนสำรอง-เตือนนักลงทุน' ป้องเหตุ ผิดนัดชำระหนี้ พร้อมศึกษา เปิดข้อมูลความเสี่ยงเพิ่ม เชื่อสถานการณ์ตลาดดีขึ้น เผยปัจจุบันมีบริษัทเสนอขาย-ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นกู้อีกราว 3 แสนล้าน - "อมตะ" ชี้รัฐแจกเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ช่วงสั้นๆ ส่วนการขึ้นค่าแรงต้องค่อยเป็นค่อยไป พิจารณาจากสถานการณ์ เงินเฟ้อ - ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้วิเคราะห์ตลาด เอเชียกลาง 5 ประเทศ ได้แก่ คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน ทาจิกิสถาน และคีร์กีซสถาน เพื่อหาโอกาสเปิดตลาดใหม่ ตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ เน้นตลาดใหม่มีกำลังซื้อสูง แต่ยังมีมูลค่าการค้ากับไทยไม่มากนัก พบว่าภาพรวมตลาดเอเชียกลางมีขนาด เศรษฐกิจและจำนวนประชากรใกล้เคียงกับไทย โดยคาซัคสถานมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด รายได้ต่อหัว 11,244 ดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่า ไทย 1.6 เท่า อุซเบกิสถาน มีประชากรมากที่สุด คิดเป็น 45% ของเอเชียกลาง มีประชากรรวม 78.5 ล้านคน - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 3.7% ใน เดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค. และเมื่อเทียบราย เดือน ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (13 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดในเดือนส.ค. - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (13 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้นในเดือนส. ค. ขณะเดียวกันตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งลดความน่าดึงดูดของทองคำ - หัวหน้านักวิเคราะห์ที่ Bankrate ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม สัปดาห์หน้า หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) อย่างไรก็ดี นายแมคไบรด์ระบุว่า รายงานดัชนี CPI ดัง กล่าว ได้สร้างความกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น อาจทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งก่อนสิ้นปีนี้ - นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. ส่วนในวันพรุ่งนี้จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน ก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest