ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.31 อ่อนค่าจากช่วงเช้า เม็ดเงินไหลออกตลาดหุ้น-พันธบัตร
InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.31 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.23 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาคและตลาดโลก เนื่องจากนักลงทุนหันไปถือครองดอลลาร์ที่เป็น สินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีความกังวลเรื่องสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.19 - 36.40 บาท/ดอลลาร์ "วันนี้บาททยอยอ่อนค่าต่อเนื่องตามภูมิภาคและตลาดโลกจากปัจจัยเรื่องสงครามในตะวันออกกลาง โดยมีกระแสเงินทุนต่าง ประเทศ (Flow) ไหลออก โดยวันนี้ต่างชาติขายออกทั้งพันธบัตรและหุ้น" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 36.20 - 36.40 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 149.46 เยน/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับเดียวกับเมื่อเช้า - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0535 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0523 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,427.11 จุด ลดลง 23.64 จุด, -1.63% มูลค่าการซื้อขาย 56,231.67 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,954.79 ล้านบาท (SET+MAI) - ครม.อนุมัติขยายระยะเวลายกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือ เดินทางสัญชาติรัสเชียกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราวจากเดิม 30 วัน เป็น 90 วัน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวตามที่กระทรวงการต่าง ประเทศเสนอ - ครม. เห็นชอบให้ดำเนินการศึกษาโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) หรือแลนด์บริดจ์ เพื่อจะช่วยขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ - รองนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่า โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ไม่มีผลกระทบ และจะเดินหน้าต่อ รัฐบาลพร้อมรับฟังปรับปรุงใน รายละเอียดที่จะไม่ผิดหลักการในการใช้เงินส่วนนี้ ยืนยันจะเริ่มโครงการนี้ได้ในช่วงเดือนก.พ.67 ตามที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดไว้ - นักวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า อีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายเงินบาทคือการขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวินัยทางการคลังของไทย โดยเฉพาะแผนแจกเงินดิจิทัลให้กับประชาชน ซึ่งประมาณการว่าจะสร้างหนี้สาธารณะก้อน ใหม่ให้กับไทยมากถึง 5.6 แสนล้านบาท (1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) - สกุลเงินต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับตัวลดลงเกือบแตะจุดต่ำสุดในปีนี้ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐพุ่งทะยาน ขึ้น โดยค่าเงินริงกิตของมาเลเซียและเงินบาทของไทยปรับตัวลดลงมากที่สุด ขณะที่ รัฐบาลและกลุ่มธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้วิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เงินอ่อนค่ามีต่อเศรษฐกิจประเทศ - นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท Oversea-Chinese Banking กล่าวว่า สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส ถือเป็นการ ซ้ำเติมเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสองมหาอำนาจ อย่างสหรัฐและจีน
กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest